สงสัยผมจะโพสต์ไปชนกับคุณย้งยี้แล้วนะครับเนี่ย
ก็เลยโดนตีกลับ โพสต์ไม่ขึ้นในครั้งแรก
--------------------------------------------------------
ไอ้นี่มันรู้ว่าผม......
หรือว่ามันจะลองใจผมวะ???
ใจผมเต้นตึกตักๆ ตุ้มๆต่อมๆ มองไปที่หน้าของจิฮารุ
ใกล้ ใกล้มากๆ
เฮ้ย...เฮ้ย...มันจะมาไม้ไหนวะเนี่ย!!!!
ความเงียบกริบได้เข้าครอบงำบรรยากาศในห้องทำงานแห่งนี้
มันคงเป็นเวลาไม่กี่สิบวินาที แต่ผมรู้สึกว่ามันนานมากกกกกกกกก
ผมไม่รู้จะมองไปทางไหน เพราะโดนนั่งคร่อมซะอย่างนั้น
ก็เลยนั่งนิ่งไหวติง มองไปที่หน้าของเค้า
ในที่สุดปากเค้าก็ขยับขึ้นแล้วพูดว่า
“อีก10นาที จะมาหานะครับ”
แล้วเค้าก็ลุกขึ้นกลับไปห้องทำงานของเค้า
มันอะไรกันวะเนี่ย ผมจะชิ่งหนีกลับก่อนดีมั้ยนะ????
คิดไปคิดมาก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
ผมก็เลยรีบปั่นงานให้เสร็จ จริงๆแล้วงานมันก็เหลืออีกไม่มากหรอกครับ
มือของผมน่ะสิ มันสั่นไปหมด พิมพ์ผิดๆถูกๆ
อาการตื่นเต้นจากเรื่องเมื่อกี้ยังไม่หายจากหัวผม
“ทำไงดีวะ ทำไงดีวะ” ในหัวมีแต่คำถาม
จน10นาทีผ่านไป เค้าก็เดินเข้ามาในห้อง
ใจดีสู้เสือ......
เรียนคำนี้มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ วันนี้คงต้องใช้อีกครั้งแล้วหละวะ
“ไปกินที่ไหนดีครับ” ผมพยายามข่มความรู้สึก และฝืนส่งยิ้มสยามไปให้
และถามไปเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไป รปปงงิ กันมั้ยครับ มีร้านทังทังเมน (บะหมี่ออกเผ็ดๆหวานๆ) อร่อยมาก
นั่งรถไฟฟ้าจากที่นี่ไปก็แป๊บเดียวเอง”
รปปงงิ ....เหรอครับ....
รปปงงิเป็นศูนย์รวมธุรกิจ และเป็นศูนย์รวมความหรูหราเอาไว้มากมายของญี่ปุ่น
เป็นสถานที่ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงดูใหม่
และสวยงามไปด้วยศิลปะและเทคโนโลยีสมัยใหม่ล้ำยุคล้ำสมัยมากมาย
ในโตเกียว ถ้าใครบอกว่าทำงานอยู่รปปงงิ จะติดภาพหรูขึ้นมาทันทีเลยครับ
ที่นี่เคยเป็นศูนย์ของกองทหารอเมริกัน
สถานทูตสเปน สวีเดนก็อยู่ที่นี่
ดังนั้นรปปงงิจึงเป็นศูนย์รวมความอินเตอร์ของโตเกียวเลยทีเดียวครับ
เราจะเห็นคนต่างชาติจำนวนไม่น้อยเดินไปมากันให้ขวั่กที่นี่ครับ
แถมสถานีโทรทัศน์อาซาฮี ก็อยู่ในรปปงงิอีกด้วย
รปปงงิ จึงเป็นที่นัดเดทนัดเที่ยวอันดับต้นๆของหนุ่มสาวทำงานทั้งหลายครับ
ดังนั้นจึงไม่แปลกครับ
ที่จะเห็นสาวญี่ปุ่นหน้าหมวย หนุ่มญี่ปุ่นหน้าตี๋เดินผ่านหน้าเราโดยพูดภาษาอังกฤษคล่องปร๋อราวกับเจ้าของภาษายังไงยังงั้น
รถไฟสายโอเอโดะวิ่งมุ่งหน้าสู่ รปปงงิ อย่างรวดเร็ว
รถไฟใต้ดินสายสีชมพูเข้มสายนี้ ลึกและใหม่ ภายในสถานีจึงสวย
แถมยังมีศิลปะริมผนังให้ชมอยู่บ่อยๆด้วยครับ
พูดถึงความลึกถึงสายนี้ แล้วทึ่งจริงๆครับ มีบันไดเลื่อนลงไปประมาณ 3-4ชั้นน่ะครับ ผมว่าความลึกของสายนี้น่าจะเท่ากับหรือสูงกว่า มาบุญครองชั้น3-4ได้แหละมังครับ
จากนั้นไม่กี่นาที....
เราก็เดินขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินสาย โอเอโดะ
“Where would you like to go?” จิฮารุพูดภาษาอังกฤษใส่ผมอย่างไม่ทันตั้งตัว
หลังจากนั้น เราก็ืสื่อกันด้วยภาษาอังกฤษตลอด
สงสัยมันแค่อยากจะพูดภาษาอังกฤษแค่นั้นละมั้ง....
“หิวรึยัง”
“ไม่ค่อยหิวครับ เพราะว่าเพิ่งกินเมื่อตอนค่ำแล้วครับ” ที่ตอบไปอย่างนั้น
ก็เพราะผมเพิ่งกินเบนโตะกล่องเล็กๆไป เมื่อตอนทุ่มกว่าๆ เพราะทนหิวไม่ไหว
ซึ่งใครๆในบริษัทก็ทำอย่างนี้กัน ถ้าต้องทำงานจนดึก
อีกอย่าง ผมจะได้กินอะไรเบาๆเร็วๆ แล้วรีบกลับไปนอนไง อิอิอิ
“งั้นไป รปปงงิฮิลส์ ก่อนมั้ยครับ? ตอนนี้ยังไม่ปิด ถ้ารีบไปก็คงทัน”
“จริงรึเปล่าครับ ไปครับไป” อ้าวๆๆๆๆๆๆๆ เลี่ยงไปเลี่ยงมาซะตั้งนาน ดันตอบรับไปง่ายๆซะังั้นแหละครับ
เหตุก็เพราะว่า ผมยังไม่เคยไป รปปงงิฮิลส์ อ่ะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Roppongi_Hillsในเวปนี้มีข้อมูลอ้างอิงด้วยครับ ลองๆคลิกดูนะครับ
ตึกนี้เป็นตึกสำคัญมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยครับ
เศรษฐีใหม่ที่ยังหนุ่ม บริษัทใหม่แต่เติบโตได้เป็นระดับแนวหน้าของญี่ปุ่นก็รวมกันอยู่ที่นี่ ตึกนี้จึงเป็นตึกที่มีเสน่ห์ของความใหม่ ก้าวหน้า ล้ำยุค และทันสมัยที่สุดของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเลยครับ
ในใจกลางของ รปปงงิ รอบๆข้างเต็มไปด้วยตึกสวยหรู
ประดับประดาไปด้วยไปด้วยศิลปะสมัยใหม่มากมาย
เด็กหนุ่มสองคนใส่สูท ดูยังไงก็เด็กเพิ่งทำงานใหม่
กำลังเดินไปสู่ลานกว้าง ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับของไฟหลากสีที่ประดับบนต้นไม้ของฤดูหนาว ...
"นั่นไง รปปงงิฮิลส์"......