


(Prologue)
ทั้งหมดสามร้อยหกสิบสี่บาท ยี่สิบห้าสตางค์ค่ะ"
ลูกค้าหนุ่มคงกำลังคิดอะไรเพลินๆ แคชเชียร์สาวใหญ่จึงต้องบอกราคาซ้ำอีกครั้ง
"ขอโทษครับ"
ชายหนุ่มส่งธนบัตรสีม่วงในมือให้พร้อมกับพึมพำขอโทษ เรียกรอยยิ้มกว้างจากคนที่หน้าเครื่อง
"เงินทอนหนึ่งร้อยสามสิบห้าบาท เจ็ดสิบห้าสตางค์ค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
เสียงนุ่มทุ้มกับรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้แคชเชียร์สาวโสดถึงกับยิ้มไม่หุบ
"คนอะไรหล่ออย่างกะดาราหนังแถมยังพูดเพราะอีกต่างหาก สงสัยสาวคงติดตรึม..."
เพราะมัวแต่ชะเง้อมองตามร่างสูงโปร่งที่เดินหิ้วถุงพะรุงพะรังไปยังทางออกสู่ลานจอดรถ ลูกค้าที่ยืนรอคิดเงินอยู่จึงต้องร้องเตือน
"คิดเงินด้วยจ้า"
"อุ๊ย ขอโทษค่ะ"
อารามเขินแคชเชียร์สาวใหญ่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นร่างสูงใหญ่ที่ผละจากตู้อาหารแช่แข็งแล้วเดินดิ่งตาม หลังลูกค้าที่เพิ่งจ่ายเงินเสร็จออกไป ใบหน้าคมสันคร้ามแดดไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ แต่ดวงตาคมกล้าคู่นั้นทอประกายวาววับเหมือนเจ้าตัวกำลังกระหยิ่มยิ้ม ย่องอยู่คนเดียว
ฟ้ามืดเร็วจริง เพิ่งจะหกโมงเท่านั้นเอง...
ธาริศคิดในใจ ลมเย็นพัดกรูเกรียวมากระทบผิวจนขนลุกขณะเร่งจัดของที่เพิ่งซื้อมาลงกระโปรงหลังรถ นอกจากอาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งก็มีผัก ผลไม้ ขนมปังและไข่ไก่ กะว่าพออยู่ได้สักหนึ่งอาทิตย์ เขาตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ จึงไม่ได้บอกใครที่ไร่ไว้ล่วงหน้าแม้แต่บิดามารดาเพราะไม่อยากรบกวน คืนนี้นอนพักให้สบายที่บ้านหลังน้อยริมธารแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปหาท่านที่บ้านใหญ่... ท่านคงดีใจที่เขาเรียนจบในสามปีครึ่งตามที่ตั้งใจ แถมเทอมสุดท้ายน่าจะได้ A หมดทุกวิชาหากไม่มีอะไรผิดพลาด นึกแล้วก็อดยิ้มคนเดียวไม่ได้
เจ็ดเดือนเต็มๆ แล้วสินะที่ไม่ได้มาเหยียบที่นี่...
ชายหนุ่มรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาอีกหนแม้ไม่มีลมพัดผ่านมาสักน้อย
เจ็ดเดือนเต็มๆ ที่เขาต้องต่อสู้กับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนทั้งยามหลับและยามตื่น แต่ในที่สุดเขาก็พิสูจน์แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่อาจทำให้เขาพ่ายแพ้ แม้จะไม่มีใครเห็นหรือร่วมรับรู้แต่เขาก็ภูมิใจที่สามารถพาตัวเองพ้นห้วงเหวมืดดำขึ้นมาได้...
คลื่นความคิดทำให้มือกระแทกปิดฝากระโปรงอย่างแรงจนตัวเองสะดุ้ง ว่าที่บัณฑิตหนุ่มถอนหายใจแรงๆ แล้วนับหนึ่งถึงสิบเพื่อให้ใจที่เต้นรัวสงบลง แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากที่ใจก็หล่นลงไปอยู่ตาตุ่มพร้อมกับขนที่ต้นคอลุกซู่ เมื่อได้ยินเสียงห้วนห้าวที่คิดว่าไล่พ้นจากความทรงจำแล้วดังขึ้นเกือบชิดริมหู
"กลับมาแล้วหรือคุณน้ำ... คิดถึงผมไหม?"